เมนู

[916] น้องนางเอ๋ย บิดาของเธอคงรู้เข็มเล่มนี้
ที่เราทำ และคงจะเชื่อเชิญเราด้วยตัวเธอ และ
ทรัพย์อย่างอื่นที่มีอยู่ในเรือน.

จบ สูจิชาดกที่ 2

อรรถกถาสูจิชาดกที่ 2



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ปัญญาบารมีแล้ว จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า อกกฺกสํ ดังนี้. เรื่อง
จักมีแจ้งชัดในมหาอุมมังคชาดก.
ก็ในคราวครั้งนั้น พระศาสดาได้ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้ว
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่เฉพาะแต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาล
ก่อน ตถาคตก็เป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้ฉลาดในอุบายทีเดียว. แล้วได้ทรง
นำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร
พาราณสี พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดในตระกูลช่างเหล็ก ในแคว้นกาสี
เติบใหญ่แล้วได้เป็นผู้สำเร็จศิลปะ. แต่มารดาบิดาของท่านเป็นคนยาก
จน. ในที่ไม่ไกลจากบ้านของมารดาบิดาของท่านนั้น มีหมู่บ้านช่าง-
เหล็กหมู่อื่นพันหลังคาเรือน ช่างเหล็กผู้เป็นหัวหน้าช่างเหล็กพันหลัง-
คาเรือนในหมู่บ้านนั้น เป็นราชวัลลภผู้มั่งคั่งมีทรัพย์มาก. เขามีธิดา

คนหนึ่ง มีรูปโฉมสวยสุด เทียมสาวสวรรค์ ประกอบด้วยลักษณะของ
นางงามชนบท. คนทั้งหลายในหมู่บ้านรอบ ๆ บ้านพากันมาถึงหมู่บ้าน
นั้น เพื่อต้องการจ้างตีมีดตีขวาน และหล่อผาลไถนา โดยมากก็เห็น
หญิงสาวคนนั้น. พวกเขากลับไปบ้านของตน ๆ แล้วสรรเสริญรูปโฉม
ของนาง ในที่นั่งและที่ยืนเป็นต้น. พระโพธิสัตว์ได้ยินคำชมนั้นแล้ว
ติดใจ เพราะเกี่ยวข้องกับการได้ยิน จึงคิดว่า เราจักเอานางกุมาริกา
นั้นมาเป็นบาทบริจาริกา คือภริยา. แล้วได้เอาเหล็กเนื้อดีที่สุด ทำให้
เป็นเล่มเข็มเล็ก สุขุมเล่มหนึ่ง เจาะห่วงก้นเข็ม แล้วถ่วงไว้ในน้ำ ทำ
กลักเข็มนั้นแบบเข็มนั่นแหละ อีกอันหนึ่งเจาะห่วงไว้ ได้ทำกลักเข็มนั้น
โดยทำนองนี้ 7 ชั้น. ไม่ควรพูดว่า ทำได้อย่างไร ? ด้วยว่าเหตุการณ์
สำเร็จได้ เพราะพระโพธิสัตว์มีความรู้มาก. พระโพธิสัตว์นั้น สอด
เข็มนั้นไว้ในตลับ เก็บไว้ในชายพกแล้วไปหมู่บ้านนั้น ถามถึงถนน
ที่อยู่ของหัวหน้าช่างเหล็ก ไปถึงที่นั้นแล้วยืนที่ประตู กล่าวว่า ใคร
ต้องการซื้อเข็มที่มีรูปร่างอย่างนี้ จากมือของข้าพเจ้าด้วยมูลค่าดังนี้. เมื่อ
จะพรรณนาถึงเข็ม จึงได้ยินใกล้ประตูเรือนหัวหน้าช่างเหล็กแล้วกล่าว
คาถาที่ 1 ว่า :-
ใครต้องการซื้อเข็มที่ไม่ขรุขระ ไม่หยาบ
ขัดด้วยหินแข็ง มีรูสำหรับร้อยด้ายดี ทั้งเล่ม
เล็ก ทั้งมีปลายคม.

คาถานั้นมีเนื้อความว่า ใครต้องการซื้อเข็มของเรา ที่ชื่อว่าไม่
ขรุขระ เพราะไม่มีปม ไฝฝ้าหรือรอย. ชื่อว่า ไม่หยาบ เพราะเกลี้ยง-
เกลา. ชื่อว่า ขัดด้วยของแข็ง เพราะขัดแล้วด้วยของแข็ง คือของที่
แก่น ได้แก่หิน. ชื่อว่า มีรูสำหรับร้อยด้วยดี เพราะประกอบด้วยห่วง
คือรูร้อยที่ดีงาม คือหมดจดดี ชื่อว่า เล็ก เพราะละเอียด ชื่อว่า มี
ปลายคม เพราะคมที่ปลาย จากมือของเราโดยให้มูลค่าราคา.
ก็แล ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว เมื่อจะพรรณนาถึงเข็มนั้นอีก จึง
ได้กล่าวคาถาที่ 2 ว่า :-
ใครต้องการซื้อเข็ม ที่ขัดดีแล้ว มีรูร้อย
ด้ายเรียบร้อย ที่ให้เป็นไปดีแล้วตามลำดับ ที่
กัดทั่งทะลุและแข็งแกร่ง.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สุมชฺชํ ความว่า ที่ขัดแล้วด้วยดี
ด้วยผงที่ได้จากแคว้นกุรุ. บทว่า สุปาสํ ความว่า ชื่อว่า มีห่วง คือ
รูก้นเข็มดี เพราะเจาะด้วยสว่านเจาะรูที่ละเอียด. บทว่า ฆนฆาติมํ
ความว่า เข็มที่ถูกตีทะลุทั่งเข้าไปตามลำดับ นี้เรียกว่า ฆนหาติมา
อธิบายว่า เป็นเช่นนั้น. บทว่า ปฏิตฺถทฺธํ ความว่า แข็ง คือ ไม่อ่อน.
ขณะนั้น นางกุมาริกานั้น กำลังใช้พัดใบตาลพัดบิดา ผู้รับ-
ประทานอาหารเช้าแล้วนอนอยู่บนที่นอนเล็ก เพื่อระงับความไม่สบาย

ได้ยินเสียงที่ไพเราะของพระโพธิสัตว์ เหมือนเอาก้อนเนื้อสดฟาดหัวใจ
และเหมือนถูกดับด้วยความร้อนอบอ้าว ด้วยน้ำพันหม้อ สงสัยว่า นั่น
ใครหนอร้องขายเข็มที่หมู่บ้านเป็นที่อยู่ของช่างเหล็ก ด้วยเสียงไพเราะ
นัก ? เขามาด้วยกิจกรรมอะไรหนอ ? เราจักรู้จักเขา แล้ววางพัดใบตาล
ไว้ ออกจากบ้านไปยืนที่เฉลียงข้างนอก พูดกับพระโพธิสัตว์นั้น. ตาม
ธรรมดาความปรารถนาย่อมสำเร็จแก่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย. เพราะว่า
ท่านมาหมู่บ้านนั้น ก็เพื่อความต้องการหญิงสาวคนนั้นนั่นเอง. นาง
นั่นแหละ เมื่อจะพูดกับพระโพธิสัตว์นั้น จึงพูดว่า ข้าแต่มาณพ ชาว
รัฐทั่ว ๆ ไป มาหมู่บ้านนี้เพื่อต้องการเข็มเป็นต้น แต่คุณมาเพื่อจะขาย
เข็มในบ้านช่างเหล็ก เพราะความโง่ ถ้าแม้นว่า คุณกล่าวสรรเสริญ
เข็มตลอดทั้งวันไซร้ ก็จักไม่มีใครรับเอาเข็มนั้นจากมือของคุณ ถ้าหาก
คุณอยากได้มูลค่าไซร้ ก็จงไปหมู่บ้านอื่น แล้วได้กล่าวคาถา 2 คาถา
เดี๋ยวนี้ เข็มและเบ็ดทั้งหลายเป็นสินค้า
ออกไปจากบ้านนี้ นี้ใครต้องการขายเข็ม ใน
หมู่บ้านช่างเหล็ก ศัสตราทั้งหลายไปจากหมู่
บ้านนี้ การงานมากอย่างต่าง ๆ ชนิด เป็นไป
ในหมู่บ้านนี้ นี้ใครควรจะขายเข็มในหมู่บ้าน
ช่างเหล็ก.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อิโต ทานิ ความว่า เข็ม เบ็ด
และเครื่องอุปกรณ์อื่น ๆ ในรัฐนี้ ในขณะนี้ออกไปจากหมู่บ้านช่างเหล็ก
นี้. บทว่า ปตายนฺติ ความว่า ออกไป คือแผ่ไปตลอดวันนั้น ๆ. บทว่า
โกยํ ความว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครต้องการจะขายเข็มที่หมู่บ้านช่าง
เหล็กนี้. บทว่า สตฺถานิ ความว่า แม้ศัสตรานานาชนิด ที่มาสู่เมือง
พาราณสี ก็ไปจากหมู่บ้านนี้นั่นเอง. บทว่า วิวิธา ปุถู ความว่า
การงานนานาประการตั้งมากมาย เป็นไปอยู่ เพราะเครื่องอุปกรณ์ทั้ง-
หลายที่ผู้อยู่ในรัฐทั้งสิ้น เอามาจากหมู่บ้านนี้เอง.
พระโพธิสัตว์ได้ยินคำของนางแล้ว จึงกล่าวว่า น้องนางเอ๋ย
น้องไม่รู้ เพราะไม่รู้จึงพูดอย่างนี้ แล้วได้กล่าวคาถา 2 คาถาว่า :-
ผู้ฉลาดจะต้องขายเข็ม ในหมู่บ้านช่าง-
เหล็ก อาจารย์ช่างทั้งหลาย จึงจะเข้าใจงาน
ว่าทำดีหรือไม่ดี. น้องนางเอ๋ย บิดาของเธอ
คงรู้เข็มเล่มนี้ที่เราทำแล้ว และคงจะเชื้อเชิญ
เราด้วยตัวเธอ และทรัพย์อย่างอื่นที่มีอยู่ใน
เรือน.

ศัพท์ว่า สูจึ ในคาถานั้น ท่านกล่าววิภัติคลาดเคลื่อน คือ
กล่าวปฐมาวิภัติเป็นทุติยาวิภัติไป. มีคำอธิบายว่า ขึ้นชื่อว่า เข็ม ต้อง

คนฉลาด คือเป็นบัณฑิต จึงจะขายในหมู่บ้านช่างเหล็กได้นั้นแหละ.
เพราะเหตุไร ? บทว่า อาจริยา ปชานนฺติ กมฺมํ สุกตทุกฺกฏํ ความ
ว่า ก็อาจารย์ช่างศิลปประเภทนั้น จึงจะรู้งานที่ทำดีหรือไม่ดีในศิลป
ประเภทนั้น ๆ ถ้าหากเรานั้นไปบ้านคฤหบดีทั้งหลาย ผู้ไม่รู้งานของช่าง
เหล็ก จักให้เขารู้ได้อย่างไรว่าเราทำเข็มดีหรือไม่ดี ? แต่ในบ้านนี้
ฉันจักให้ช่างทั้งหลายรู้กำลังของฉัน. พระโพธิสัตว์พรรณนากำลังของ
ตนด้วยคาถานี้อย่างนี้. บทว่า ตยา จ มํ นิมนฺเตยฺย ความว่า
น้องนางเอ๋ย ถ้าบิดาของเธอพึงรู้เข็มเล่มที่ฉันทำนี้ว่า เข็มชนิดนี้ หรือ
เล่มนี้เป็นอย่างนี้แล้วไซร้ ท่านคงจะเชิญฉันด้วยตัวเธออย่างนี้ว่า ฉัน
จะให้ธิดาคนนี้เป็นบาทบริจาริกาของคุณ ขอจงรับเอานาง ดังนี้ด้วย.
บทว่า ยญฺจตฺกญฺญํ ฆเร ธนํ ความว่า ทรัพย์อย่างอื่นอันใดที่มี
วิญญาณก็ตาม ไม่มีวิญญาณก็ตาม มีอยู่ในเรือน บิดาของเธอคงเชื้อเชิญ
ฉันด้วยทรัพย์นั้นด้วย. ปาฐะว่า. ยญฺจสฺสญฺญํ บ้าง ดังนี้ก็มี มีความ
หมายว่า ทรัพย์อย่างอื่นในเรือนของเขามีอยู่.
หัวหน้าช่างเหล็กได้ยินถ้อยคำของคนทั้ง 2 นั้นแล้ว จึงร้องเรียก
ธิดาว่า แม่หนู ๆ แล้วถามว่า หนูเจรจากับใคร ?
พ่อ หนูเจรจากับชายคนหนึ่งที่ขายเข็ม ธิดาตอบ.
ลูกจงเรียกเขามาหาพ่อ พ่อสั่ง นางจึงไปเรียก พระโพธิสัตว์นั้น
จึงเข้าไปในบ้าน ไหว้หัวหน้าช่างเหล็กแล้วได้ยืนอยู่. ลำดับนั้น หัวหน้า

ช่างเหล็กนั้น จึงถามว่า พ่อคุณเป็นคนชาวบ้านไหน ?
ผมเป็นคนชาวบ้านโน้น เป็นลูกของช่างเหล็กชื่อโน้น พระ-
โพธิสัตว์ตอบ.
เหตุไฉนคุณจึงมาที่นี้ หัวหน้าช่างเหล็กซัก.
มาเพื่อขายเข็มครับ พระโพธิสัตว์ตอบ.
ขอดูเข็มของคุณซิ หัวหน้าช่างเหล็กพูด.
พระโพธิสัตว์ต้องการจะประกาศคุณของตน ท่ามกลางช่างทั้ง-
หมด จึงถามว่า การดูท่ามกลางช่างทั้งหมดดีกว่าดูเป็นคน ๆ ไปไม่ใช่
หรือครับ ? หัวหน้าช่างเหล็กตอบว่า ดีแล้วคุณ จึงสั่งให้ช่างเหล็กทั้ง-
หมดมาประชุมกัน มีช่างเหล่านั้นแวดล้อมแล้วพูดว่า เอาออกมาเถอะ
คุณ พวกผมจะดูเข็มของคุณ. พระโพธิสัตว์ขอร้องว่า อาจารย์ครับ
ขอให้นำทั้งมา 1 อันกับถาดสัมฤทธิ์มีน้ำเต็มมา 1 ใบ เขาก็ให้คนนำมา
ให้. พระโพธิสัตว์จึงนำ ตลับเข็มออกมาจากชายพกแล้ว ได้มอบให้ไป.
หัวหน้าช่างเหล็กนำเข็มออกจากตลับนั้นแล้ว ถามว่า พ่อคุณ นี้หรือ
เข็ม ? นี้ไม่ใช่เข็มนั้นเป็นกลักเข็ม พระโพธิสัตว์ตอบ. เขาพิจารณา
ดูแล้วไม่เห็นก้นไม่เห็นปลายเข็มเลย. พระโพธิสัตว์จึงให้นำมาแล้วเอา
เล็บแคะกลักออกไป แสดงให้มหาชนเห็นว่า นี้เข็ม นี้กล่องเข็ม แล้ว
วางเข็มไว้ที่มือของอาจารย์ วางกล่องไว้ใกล้เท้า. ท่านถูกอาจารย์นั้น
ถามอีกว่า นี้เห็นจะเป็นเข็มนะพ่อคุณ จึงบอกว่า นี้ก็ไม่ใช่เข็ม เป็น

กลักเข็มเหมือนกัน แล้วพลางเอาเล็บสะกิดออกวางกลักเข็ม 6 กลักไว้
ใกล้เท้าของช่างเหล็กตามลำดับแล้ว จึงวางเข็มไว้บนมือเขาโดยบอกว่า
นี้เข็ม. ช่างเหล็กพันคนพากันดีดนิ้วปรบมือ ? การชูผ้า เป็นไปแล้ว
คือโบกผ้า. ลำดับนั้น หัวหน้าช่างเหล็ก จึงได้ถามพระโพธิสัตว์นั้นว่า
เข็มนี้มีกำลังอย่างไร ?
พระโพธิสัตว์ ข้าแต่ท่านอาจารย์ ขอให้ท่านใช้ให้ผู้ชายที่มีกำลัง
ยกทั่งขึ้นแล้วให้วางถาดน้ำไว้ใต้ทั่งแล้วตอกเข็มนี้ลงกลางทั่งเถิด. เขาให้
คนทำอย่างนั้นแล้วตอกปลายเข็มลงกลางทั้ง. เข็มนั้นทะลุทั่งลงไป วาง
ขวางอยู่เหนือหลังน้ำ ไม่สูงไม่ต่ำ แม้ประมาณเท่าปลายผม. ช่างเหล็ก
ทั้งหมดพูดว่า ชั่วเวลาถึงปานนี้พวกเราไม่เคยได้ยินได้ฟังเลยว่า ขึ้น
ชื่อว่าช่างเหล็กทั้งหลาย เช่นนี้มีอยู่ แล้วพากันปรบมือ ชูผ้าขึ้นเป็น
พัน ๆ. หัวหน้าช่างเหล็กเรียกธิดาให้มาหา และประกาศท่ามกลางบริษัท
นั้นเองว่า กุมาริกานี้สมควรแก่คุณเท่านั้น แล้วได้หลั่งน้ำใส่มือมอบให้.
ในเวลาต่อมาพระโพธิสัตว์นั้น ได้เป็นหัวหน้าช่างเหล็กแทนในหมู่บ้าน
นั้น โดยที่หัวหน้าช่างเหล็กล่วงลับไปแล้ว.
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศ
สัจจะแล้วทรงประชุมชาดกว่า ธิดาของหัวหน้าช่างเหล็กในกาลครั้งนั้น
ได้เป็นมารดาพระราหุลในบัดนี้ ส่วนหัวหน้า คือเราตถาคต. ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาสูจิชาดกที่ 2

3. ตุณฑิลชาดก


ว่าด้วยธรรมเหมือนน้ำ บาปธรรมเหมือนเหงื่อไคล


[917] บัดนี้ วันนี้ แม่เราให้อาหารสำหรับขุน
ใหม่ รางอาหารนี้เต็ม นายแม่ยืนใกล้ราง
อาหาร คนหลายคนมีมือถือบ่วง อาหารนั้น
ไม่แจ่มชัดสำหรับฉัน เพื่อจะกินอาหาร.
[918] เจ้าสะดุ้ง เจ้าหัวหมุนไปไย ? เจ้า
ประสงค์จะหลีกหนีไป เจ้าไม่มีผู้ต้านทาน จัก
ไปไหน ? น้องตุณฑิละเอ๋ย เจ้าจงเป็นผู้ขวน-
ขวายแต่น้อย กินไปเถิด พวกเราถูกขุนเพื่อ
ต้องการเนื้อ.
[919] เจ้าจงลงสู่ห้วงน้ำ ที่ไม่มีโคลนตม ชำระ.
ล้างเหงื่อไคลทั้งหมด แล้วถือเอาเครื่องลูบไล้
ใหม่ ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมา มีกลิ่นหอมไม่ขาด
สาย.
[920] ห้วงน้ำอะไรหนอที่ไม่มีโคลนตม ? อะไร
หนอเรียกว่าเหงื่อไคล ? อะไรเรียกว่าเครื่อง